วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า  ถ้าเอ่ยชื่อวัดพระธรรมกายในตอนนี้ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก  แต่ขึ้นอยู่กับว่า  แต่ละคน รู้จักในมุมไหนเท่านั้นเอง

วัดพระธรรมกายสำหรับเรา ในครั้งเเรก ที่เราได้ยินชื่อนี้จากพ่อเรา ที่เข้านี้เป็นประจำ เราก็เเค่อ่อ พ่อไปวัดนี้  เเต่นานเข้าๆๆๆ  เราก็เริ่มสงสัยเเละไม่เข้าใจพ่อเรา  ว่าทำไม พ่อเราต้องไปวัดพระธรรมกายทุกวันอาทิตย์ ทั้งที่วัดนี้ก็อยู่ไกลบ้าน เดินทางลำบาก   แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก

หลังจากนั้น พ่อก็มาชวนเเม่ให้ไปร่วมงานบุญที่วัดพระธรรมกาย  จำไม่ได้เเล้วว่างานอะไร รู้เเต่ว่า พ่อกับเเม่ออกจากบ้านกันตั้งเเต่เรายังไม่ตื่น  และกว่าจะกลับมาถึงบ้าน เราก็หลับเเล้ว

หลังจากวันที่เเม่เราไปครั้งแรกนั้น ดูเหมือนเเม่เราจะอินกว่าพ่อเสียอีก แม่มาเล่าๆๆๆๆ เรื่องที่ปลื้มๆๆๆ

เกี่ยวกับงานบุญที่วัดพระธรรมกายในวัดนั้น  เเม่บอก งานมาร่วมงายบุญคนใส่ชุดขาว เป็นหลายหมื่นคน เเล้วก็พูดต่ออีกยาว

เรามาสะดุดกับคำว่า คนมาร่วมงานเป็นหมื่นคนนี้เเหร่ะ  คือมันจินตนาการภาพไม่ออกอ่า ว่าคนที่มาร่วมงานเป็นหมื่นๆ มันมีจริงๆ หหรอ เเล้วจะอยู่กันยังไง อะไรอย่างงี้

และทั้งพ่อเเละเเม่ก็ชวนเราเข้าวัดนี้มาตลอด

กระทั่งวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2539 เราก็ไปร่วมงานบุญตามคำชวนของเเม่

วันนั้นเป็นวันงานบุญใหญ่  วันงานบุญใหญ่หมายถึงวันที่วัดมีกิจกรรมพิเศษ กว่าปกติที่มีการจัดงานบุญกันในทุกวันอาทิตย์อยู่แล้ว

วันที่เราไป เป็นวันงานบุญ ยกค้ำฟ้าสภาธรรมกายสากล คนไปร่วมงานหลายหมื่นคนอย่างที่เเม่เล่าจริงๆ ด้วย  และได้เห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมชโย เป็นครั้งเเรก ท่านดูผ่องใสมากๆๆๆๆ เเละพูดไพเราะ  เลื่อมใสและเคารพท่านตั้งเเต่เเรกเห็น


ไปวัดครั้งเเรก ความรู้สึกบางอย่างที่มันอธิบายไม่ได้มันเกิดขึ้นนะ  คือมันรู้สึกว่าเราได้ไปสถานที่ที่เราคุ้นเคยมานาน  ชอบบรรยากาศ ชอบผู้คนบรรยากาศที่คนเยอะมาก เเต่ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก และที่สำคัญ ห้องน้ำสะอาดมากๆๆๆๆๆๆๆ  เรื่องห้องน้ำนี่ชนะใจเรามาก  ห้องนำวัดสมัยนั้นเป็นปูนเปลือย หินหยาบ แถมใช้ซาเเลนด์กั้นเป็นรั้วรอบห้องน้ำด้วยซ้ำ แต่มันสะอาดมาก

แค่ห้องน้ำเรื่องเดียว ก็เขียนบรรยายได้อีกยาวอ่า

วันนั้นมันทำให้เราอิ่มใจลึกๆ และคิดว่าเราคงมีโอกาสได้มาอีก

หลังจากนั้นเราก็มีโอกาสได้ไปอีกจริงๆ เมื่อวัดพระธรรมกาย ได้เปิดสอนพิเศษสำหรับเด็กนักเรียน ม.ปลาย โดยเราก็ได้ไปสมัครด้วย

เราเริ่มมีเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันที่เข้าวัด ทำให้เราไปวัดบ่อยขึ้น

ในรายละเอียดว่า เราไปวัดเเล้วไปทำอะไรบ้าง ไว้เล่าในบล๊อกต่อไปนะ

เพียงเเต่อยากจะบอกว่า วัดนี้ล้างสมองเราจริงๆ ล้างสมองของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่ชอบทำให้พ่อแม่ไม่สบายใจ ไม่เคยรู้จักศีล 5 วันหนึ่งๆ คิดเเค่เรื่องเรียน เที่ยว เพื่อน ได้หันกลับมามองครอบครัว รู้จักพระคุณพ่อเเม่ เเละ กราบพ่อเเม่เป็นครั้งแรก หลังจากที่เข้าวัดนี้ตั้งเเต่เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับเเม่

ในรายละเอียด มันมีมากนะ ถึงจะเปลี่ยน ความคิด คำพูด การกระทำ ของอย่างเราได้ราวฟ้ากับเหว

ตอนเราเข้าวัดพระธรรมกายตอนนั้นเราอายุ 16 ปี เราอยากบอกว่า ช่วงชีวิตที่เราดำเนินมาตั้งเเต่หลังจากอายุ 16 ปี  มันคือรางวัลของชีวิตค่ะ  รางวัลของการเกิดมา ที่ได้รู้ว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร  รางวัลที่มอบให้กับตัวเองอย่างแท้จริงในเรื่องการออกแบบชีวิตให้กับตนเองได้ดำเนินต่อไป ภายใต้กรอบของศีลอย่างสบายๆ เเละความรู้สึกมีจิตอาสา หลังจากที่เราเป็นผู้ได้รับแล้ว เราอยากจะเป็นผู้ให้บ้าง หลังจากนั้นเราจึงตัดสินใจมาเป็๋นอาสาสมัครช่วยงานวัด

สิ่งเหล่านี้ มาอยู่ในความคิดของเราเมื่อไหร เราไม่รู้  รู้เเต่ว่า มันค่อยๆ สะสม เเละพอกพูนจนเราก็แอบคิด ว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร 55++


สำหรับอะไรที่มาเปลี่ยนเราได้ขนาดนี้  และชีวิตหลังจากเป็นอาสาสมัครของเราจะเป็นอย่างไรนั้น ขอ บอกเป็นตอนถัดๆ ไปนะ ไม่ใช่หนังขายยา อยากเล่าต่อ แต่เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน เล่าต่อคงถึงเช้าอ่า

ไว้ค่อยเข้ามาเขียนเป็นตอนๆ นะ ใครอยากฟังหรือเปล่าไม่เป็นไร แต่เราอยากเขียน โอเคนะ

บายๆๆๆๆๆ